คดี "สาวม้ง" ฆ่าตัวตายแต่ญาตินำส่งโรงพยาบาลทัน ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อ 25 ก.ค. 2561 เป็นข่าวดัง เพราะมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมหนึ่ง ได้อ้างว่าอยู่กับผู้ตายก่อนสิ้นลมหายใจ และมีคำสั่งเสียก่อนตายว่าใครเป็นผู้ข่มขืนและถ่ายคลิปประจานเธอ
"คำกล่าวของผู้ถูกทำร้ายก่อนตาย" ถือเป็นพยานบอกเล่า เพราะผู้ที่นำมาพูดคือผู้ที่ได้รับฟังมาจากผู้ตายอีกทีนึง แต่มีคำพิพากษาฎีกา เคยยกเว้นหลักดังกว่าโดยให้ถือว่า "คำกล่าวของผู้ถูกทำร้ายก่อนตาย" (Dying Declaration) รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ฎีกาที่ 4113/2539 การที่ผู้ตายซึ่งถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากวิ่งมาขอความช่วยเหลือจาก อ. และพูดบอกถึงคนที่ทำร้ายตนในโอกาสแรกแล้วก็เงียบเสียงไปพูดไม่ได้อีก และถึงแก่ความตายในคืนนั้น เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าผู้ตายรู้ตัวว่าจะต้องตายและผู้ตายคงไม่มีเวลาที่จะคิดปรักปรำผู้อื่นโดยไม่เป็นความจริง คำพูดของผู้ตายที่พูด บอกก่อนตายจึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้
ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง,พยานหลักฐาน,รับฟัง ฎีกาที่ 6659/2531 โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้ตายคงมีแต่คำเบิกความของมารดาผู้ตายว่า ผู้ตายเล่าให้ฟังว่าจำเลยข่มขืน กระทำชำเราผู้ตาย กับคำเบิกความของ ล. และพนักงานสอบสวนซึ่งสอบปากคำผู้ตายที่ป่วยหนักใกล้จะตายต่อหน้า ล.ที่โรงพยาบาลว่า ผู้ตายบอกว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้ตาย ผู้ตายจึงดื่มยาฆ่าแมลงเข้าไปและโจทก์อ้างคำให้การชั้นสอบสวนของผู้ตายมารดาผู้ตาย และพี่สาวเป็นพยานประกอบ แต่พยานโจทก์ดังกล่าวล้วนแต่ได้รับฟังการบอกเล่ามาจากผู้ตาย ทั้งคำให้การชั้นสอบสวนของผู้ตายก็เพียงแต่ให้การว่า จำเลยหลอกลวงไปข่มขืนกระทำ ชำเราหลายครั้ง มิได้มีรายละเอียดว่าจำเลยข่มขืนกระทำชำเราเมื่อใดและอย่างไร และมิได้ให้การว่าผู้ตายดื่มยาฆ่าหญ้าเพราะถูกจำเลยข่มขืนกระทำ ชำเราตามที่พนักงานสอบสวนเบิกความ คำให้การของผู้ตายมีข้อน่าสงสัยและมีน้ำหนักน้อย พยานโจทก์จึงยังเป็นที่สงสัยไม่มั่นคงเพียงพอ ต้องยกประโยชน์ แห่งความสงสัยให้จำเลย
พี่ตุ๊กตา มีความเห็นว่า สาวม้ง ไม่ได้ตายทันทีหลังจากที่ถูกทำร้าย และอีกอย่างหนึ่ง คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้กระทำความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่น" แล้วข้อยกเว้น ที่จะให้ศาลรับฟัง "คำสั่งเสียก่อนตาย" ของสาวม้ง ที่นายอัจฉริยะฯ ได้บันทึกเทปไว้ จะรับฟังเป็นพยานหลักฐาน ได้หรือไม่ ???